A :

การฝึกงานด้านเทคนิค จะเป็นการฝึกทักษะในกลุ่มแรงงานฝีมือขั้นพื้นฐาน อาทิ กระบวนการผลิตในภาคอุตสาหกรรม การก่อสร้าง การเกษตร การประมง ทักษะงานบริการพื้นฐานในโรงแรม และพนักงานการบริบาล ซึ่งจะมีการประเมินผู้ฝึกงานเมื่อใกล้ครบ 1 ปี ผ่านการสอบทักษะปฏิบัติ และให้ฝึกงานในระดับกลางต่ออีก 2 ปี รวมเป็น 3 ปี

A : สถาบัน AIU เปิดสอนหลักสูตรพัฒนาพื้นฐานวิชาชีพ และทักษะชีวิต นักศึกษาจะได้ฝึกภาษาญี่ปุ่น พื้นฐานการทำงานในระบบญี่ปุ่น ควบคู่ไปกับการฝึกทักษะการใช้ชีวิต และยังได้เรียนรู้แนวคิดการพัฒนาตนเอง การเงิน การวางแผนอนาคต โดยแยกเป็น 3 สาขาย่อย คือ สาขางานอุตสาหกรรม สาขาธุรกิจการบริการ และสาขาการจัดการสุขภาพผู้สูงอายุ ซึ่งนักศึกษาจะได้รับทุนไปฝึกงานที่ประเทศญี่ปุ่น ในสถานประกอบการตามสาขาที่เลือกเรียน

A : หลักสูตรปกติเรียนจันทร์ - ศุกร์ ตลอดทั้งวัน นักศึกษาทุกคนจะต้องอาศัยในหอพักที่โรงเรียนจัดให้ การใช้ชีวิตในหอพักเป็นส่วนหนึ่งในหลักสูตรการเรียนรู้ในสถาบัน AIU และสามารถกลับภูมิลำเนาได้ทุกวันหยุดเสาร์ - อาทิตย์หรือช่วงหยุดเทศกาล

A : เรียนได้ เพราะหลักสูตรของสถาบัน AIU สอนเนื้อหาความรู้ครบถ้วน โดยเฉพาะการฝึกปฏิบัติ ซึ่งนักศึกษาที่จบการศึกษาจะพร้อมใช้ชีวิตและฝึกทักษะการทำงานกับสถานประกอบการในประเทศญี่ปุ่นได้อย่างไม่มีปัญหา

A : จบการศึกษา หรือคาดว่าจะจบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย(ม.6) หรือเทียบเท่า (กศน., GED, เปรียญธรรม) ระดับอาชีวศึกษา (ปวช., ปวส.) หรือ ระดับอุดมศึกษา (ป.ตรี) อายุไม่เกิน 28 ปีสุขภาพร่างกายแข็งแรง

A : นักศึกษาทุกคนที่มีสิทธิรับทุนฝึกงานญี่ปุ่น และจะได้เข้าสอบรับทุนจากสถานประกอบการ จนกว่าจะผ่านการคัดเลือก ซึ่งจะส่งผลให้ระยะเวลาเรียนจนเดินทางเข้าประเทศญี่ปุ่นตามของของนักศึกษาแต่ละคนอาจจะไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับกำหนดการของสถานประกอบการ

A : ค่าใช้จ่ายที่สถาบัน AIU เรียกเก็บ จะมี ค่าธรรมเนียมแรกเข้า 5,000 บาท ส่วนค่าเรียนตามสาขาที่เลือกเรียนให้ชำระก่อนจบการศึกษา ซึ่งนักศึกษาทุกคน สามารถยื่นขอรับกองทุนช่วยเหลือค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ได้ทั้งหมด เมื่อมีรายได้ในญี่ปุ่นก็ทยอยชำระคืนได้

A : โครงการฝึกงานญี่ปุ่นของสถาบัน AIU เปิดรับนักศึกษาตลอดทั้งปี โดยจะมีรอบการเปิดเรียนทุกเดือน โดยให้สมัครล่วงหน้าอย่างน้อย 2 เดือนก่อนเข้าเรียน

A : สามารถไปทำงานที่ญี่ปุ่นได้ โดยใช้แนวทางของวีซ่าทำงานอื่น ๆ เช่น เช่น วีซ่าทักษะเฉพาะ, วีซ่าทักษะระดับสูง(วิศวกร ล่าม นักบริบาลวิชาชีพ ฯลฯ) ซึ่งเงื่อนไขก็จะสูงขึ้นตามเกณฑ์ของแต่ละวีซ่า แต่ไม่สามารถเข้าไปญี่ปุ่นผ่านระบบวีซ่าฝึกงานด้านเทคนิคได้อีก เนื่องจากวีซ่าฝึกงานด้านเทคนิคจะขอได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น

A : มีโอกาสที่เข้ารับการสอบทุนฝึกงานพร้อมกันได้ แต่ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของสถานประกอบการ ซึ่งมีเกณฑ์ในการคัดเลือกผู้รับทุนแตกต่างกัน

A : ผู้ฝึกงานด้านเทคนิคจะไม่สามารถย้ายสถานที่ฝึกงานได้ ยกเว้นกรณีที่สถานประกอบการ ล้มละลาย, ปิดกิจการ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม หากองค์กรดูแล(สหกรณ์) ไม่สามารถหาสถานประกอบการใหม่ให้ได้ ผู้ฝึกงานจะต้องเดินทางกลับประเทศไทยโดยได้รับการช่วยเหลือค่าเดินทาง และประกันการจ้างงานตามระบบกฎหมายแรงงานญี่ปุ่น

A : สามารถทำได้หากสถานประกอบการพิจารณาจ้างงานต่อเนื่อง หรือผู้ฝึกงานสามารถสมัครงานผ่านระบบวีซ่าทักษะเฉพาะด้วยตนเองได้ แต่หากต้องการทำงานในระดับสูงขึ้น เช่น ล่าม, วิศวกร จะต้องกลับประเทศไทยก่อนแล้วทางบริษัทที่รับเข้าทำงานจะดำเนินการยื่นเอกสารเพื่อขออนุญาตนำพนักงานเข้าไปทำงานในประเทศญี่ปุ่นให้ตามระบบ